17 ธ. ค. 2021 UPDATE: กระทรวงการคลัง เตรียมเก็บภาษีขายหุ้น 0. 1% เพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐ /โดย ลงทุนแมน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Reuters เคยรายงานว่า รัฐบาลไทยกำลังศึกษาการจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนรายย่อย ที่มีการซื้อขายมากกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน ในอัตรา 0. 11% ของยอดธุรกรรม ในเวลาต่อมา กรมสรรพสามิต ออกมาชี้แจงว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาของกระทรวงการคลัง โดยเชื่อว่ายังต้องใช้เวลาในการศึกษาอย่างรอบด้าน และคงยังไม่นำมาบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานว่า กระทรวงการคลังเตรียมปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ ซึ่งหนึ่งในแผนคือ การจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Financial Transaction Tax ในอัตรา 0. 1% ของการขายหุ้นที่เกินกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไปต่อเดือน โดยจะเริ่มในปี 2565 หลังจากภาษีดังกล่าวถูกยกเว้นมานานกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ซื้อขายหุ้นรายย่อย จะมีการหารือถึงอัตราการจัดเก็บที่ 0.
ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม 2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย 3. การใช้ประโยชน์เหนือจาก 1 และ 2 (ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม) 4. ที่ดินรกร้างทิ้งไว้ว่างเปล่า [สรุปโพสต์เดียวจบ] จัดการ "ภาษีที่ดิน" อย่างไร ให้ประหยัดที่สุด? เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น พี่ทุยยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ดังนี้ หากมีที่ดินมูลค่า 1 ล้านบาท โดยคำนวนจากเพดานภาษี จะเสียภาษีตามอัตราภาษี "ที่ดินเกษตร 0. 15%" เท่ากับ 1, 500 บาท เสียภาษีตามอัตราภาษี "ที่อยู่อาศัย 0. 30%" เท่ากับ 3, 000 บาท เสียภาษีตามอัตราภาษี "การใช้ประโยชน์เหนือจาก 1 และ 2 (พาณิชยกรรม) 1. 20%" เท่ากับ 12, 000 บาท และเสียภาษีตามอัตราภาษี "ที่ดินรกร้างทิ้งไว้ว่างเปล่า 3. 00%" เท่ากับ 30, 000 บาท เห็นได้ชัดว่า การเสียภาษีที่ดินรกร้างทิ้งไว้ว่างเปล่าต้องจ่ายเเพงกว่าที่ดินเกษตรถึง 20 เท่า จึงไม่แปลกที่หลายคนที่มีที่ดินจำนวนมากตื่นตัวหาทางจัดการภาษีที่ดิน จัดการ "ภาษีที่ดิน" อย่างไร?
วัตถุประสงค์ (1) สนองตอบความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลาย อาทิ ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วน ลูกค้า เจ้าหนี้ ลูกหนี้ (2) ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ไม่จำเป็น และไม่ได้มาตรฐาน (3) เสริมสร้างระบบการควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพ ต้องสอดรับกับแผนธุรกิจ โดยมุ่ง (1) ขจัดปัญหาทางภาษีอากร (2) ประหยัดค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการเสียภาษีอากรไม่ถูกต้อง (3) ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ไม่จำเป็น และไม่ได้มาตรฐาน (4) เตรียมพร้อมต่อการเรียกตรวจสอบภาษีอากรโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ (5) เสริมสร้างระบบการควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพ 3. กรอบแนวคิด (1) เข้าถึงปัญหาธุรกิจ (2) เข้าใจและเข้าถึงสาเหตุแห่งปัญหา ทางธุรกิจโดยจัดลำดับความสำคัญ (3) กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ (4) กำหนดแนวทางแก้ปัญหาตรงสาเหตุแห่งปัญหาทางธุรกิจ (1) เข้าถึงปัญหาทางภาษีอากร (2) เข้าใจและเข้าถึงสาเหตุแห่งปัญหา ภาษีอากรโดยจัดลำดับความสำคัญ (3) กำหนดเป้าหมายทางภาษีอากร (4) กำหนดแนวทางแก้ปัญหาตรงสาเหตุแห่งปัญหาภาษีอากร 4. ขั้นตอนการวางแผน (1) ขั้นตอนศึกษา กำหนดค่านิยม วิสัยทัศน์จากประเด็นปัญหา และสาเหตุแห่งปัญหาจากนั้นนำทั้งสามส่วนข้างต้นมาประมวลเป็นแนวทางปฏิบัติในการแก้ปัญหา หรือพันธกิจ เขียนเป็นแผนหลัก แผนปฏิบัติการ และโครงการ (2) ขั้นตอนปฏิบัติตามแผน (3) ขั้นตอนผลการปฏิบัติ ประกอบด้วยการประเมินผลการปฏิบัติกับสิ่งที่คาดหวังไว้ตามแผน หากเป็นที่พึงพอใจใช้เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานใหม่ในการปฏิบัติงานต่อไป เช่นเดียวกับแผนธุรกิจ 5.
ชื่อโครงงาน: Project Title: การบันทึกบัญชีและขั้นตอนการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย และวิธียื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย: กรณีศึกษาบริษัท ออโรส จำกัด Income and Expense Accounting and the Procedure of Withholding Tax and P. N. D. 3 and 53: A case study of AUROS Co ชื่อนักศึกษา: Author: นางสาวกรณัฏฐ์ ศิริคำ Ms. Korranat Sirikhum อาจารย์ที่ปรึกษา: Advisor: อาจารย์กิตติศักดิ์ สรแพทย์ Mr. Kittisak Soraphaet ระดับการศึกษา: Degree: บัญชีบัณฑิต (บช. บ. ) Bachelor of Accounting ภาควิชา: Major: การบัญชี Accounting คณะ: Faculty: บริหารธุรกิจ Business Administration ภาคการศึกษา/ปีการศึกษา: Semester / Academic year: 3/2562 3/2019 การอ้างอิง/citation กรณัฏฐ์ ศิริคำ. (2562). การบันทึกบัญชีและขั้นตอนการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย และวิธียื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย: กรณีศึกษาบริษัท ออโรส จำกัด. (สหกิจศึกษา). กรุงเทพฯ: คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม. บทคัดย่อ บริษัท ออโรส จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษา ด้านการวางผังเมือง ก่อตั้งขึ้นในปี พ. ศ.