2) ประเภทหญิง มีการแข่งขันเพียงแบบเดียว คือ สัตตกรีฑา ประกอบด้วยการแข่งขัน 7 รายการ ทำการแข่งขัน 2 วัน ติดต่อกันตามลำดับ ดังนี้ วันที่หนึ่ง: วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร, กระโดดสูง, ทุ่มลูกน้ำหนัก และวิ่ง 200 เมตร วันที่สอง: กระโดดไกล, พุ่งแหลน และวิ่ง 800 เมตร สำหรับกรีฑาประเภทผสมนั้น ผู้ชนะ คือ ผู้ที่สามารถทำคะแนนสูงสุดในการแข่งขัน ถ้าไม่เข้าแข่งขันหรือไม่ทำการประลองแม้แต่ครั้งเดียวให้ถือว่าเลิกการแข่งขัน กติกากรีฑา การแข่งขันประเภทลู่ ประกอบไปด้วย… การแข่งขันวิ่ง 1. ประเภทวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, 400 เมตร, ข้ามรั้ว 100 เมตร, ข้ามรั้ว 110 เมตร 2. ประเภทวิ่ง 400 เมตร, 800 เมตร, วิ่งผลัด 4×100 เมตร, วิ่งผลัด 4×400 เมตร 3. ประเภท 1, 500 เมตร 4. ประเภท 3, 000 เมตร, วิ่งวิบาก 3, 000 เมตร 5. ประเภท 5, 000 เมตร 6. ประเภท 10, 000 เมตร การแข่งขันวิ่งผลัด 1. เขตรับส่งไม้คทามีระยะทาง 20 เมตร โดยถือไม้คทาเป็นเกณฑ์ไม่เกี่ยวกับขา แขน ลำตัวของนักกีฬา 2. การแข่งขันวิ่งผลัด 4×200 เมตร นักกีฬาคนที่ 1 และ คนที่ 2จะต้องวิ่งช่องวิ่งของตนเองเท่านั้น คนที่ 3 จะวิ่งในช่องวิ่งของตนเองจนกระทั่งถึงเส้นตัด (เส้นโค้งแรกประมาณ 120 เมตร) 3.
ประเภทลู่ กติกากรีฑา 1. ประเภทวิ่ง 100ม., 200ม., 400ม., ข้ามรั้ว 100ม., ข้ามรั้ว 110ม. 2. ประเภทวิ่ง 400ม., 800 ม., วิ่งผลัด 4×100ม., วิ่งผลัด 4×400ม. 3. ประเภท 1, 500ม. 4. ประเภท 3, 000ม., วิ่งวิบาก 3, 000ม. 5. ประเภท 5, 000 ม. 6. ประเภท 10, 000ม. การแข่งขันวิ่งผลัด 1. เขตรับส่งไม้คทามีระยะทาง 20ม. โดยถือไม้คทาเป็นเกณฑ์ไม่เกี่ยวกับขา แขน ลำตัวของนักกีฬา 2. การแข่งขันวิ่งผลัด 4×200ม. นักกีฬาคนที่ 1และ2 จะต้องวิ่งช่องวิ่งของตนเองเท่านั้น คนที่ 3 จะวิ่งในช่องวิ่งของตนเองจนกระทั่งถึงเส้นตัด (เส้นโค้งแรกประมาณ 120 ม. ) 3. การแข่งขันวิ่งผลัด 4×400 ม. คนที่ 1 วิ่งในช่องวิ่งของตนเองเท่านั้น คนที่ 2 วิ่งในช่องวิ่งของตน เองจนระทั่งถึงเส้นตัด ซึ่งอยู่ในแนวเส้นชัย คนที่ 3 และ 4 จะยืนคอยรับในเขตรับระยะรวมเท่านั้น เมื่อนักกีฬาทีมใดวิ่งมาถึงจุด 200 ม. ก่อน ทีมนั้นจะสามารถยืนคอยรับคทาจากด้านในของลู่วิ่ง เรียงตามลำดับออกมา 4. ถือไม้คทาด้วยมือตลอดการแข่งขัน หลังส่งไม้คทาแล้วควรอยู่ในช่องวิ่งของตนเองหรือภายใน เขตรับส่งจนกว่าทางวิ่งจะไม่มีนักกีฬา 5. สามารถเปลี่ยนนักกีฬาได้ 2 คนจะต้องมีรายชื่อในการแข่งขันครั้งนั้น 6.
ดร. บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี ม. กรุงเทพธนบุรี (มกธ. ) ผู้สนับสนุนคนสำคัญคนหนึ่งของ "น้องเทนนิส" ประกาศมอบเงินสด 1 ล้านบาท ให้ น้องเทนนิส เพื่อเป็นการตอบแทนและเป็นรางวัลที่น้องอดทนพยายามฝ่าฟันอุปสรรคจนก้าวขึ้นมาถึงจุดสูงสุดในวันนี้ และหากนักกีฬาทีมชาติไทยคนอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาของ ม. กรุงเทพธนบุรี สามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้ ก็จะมอบเงินสด 1 ล้านบาท ให้กับทุกคนเช่นเดียวกัน - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) คณะกรรมการธนาคารโดยมี นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบให้ธนาคารมอบ 3 ล้านบาท ให้กับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในฐานะที่ได้สร้างความสุขความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในขณะนี้ และตอบแทนในความมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักจนนำมาซึ่งความสำเร็จได้ในที่สุด เทนนิส พาณิภัค แข่งเทควันโดมาแล้วกว่า 15 ปี คว้าเหรียญทองมาถึง 32 เหรียญ และยังเป็นเจ้าของเหรียญทองแรกของไทยจากรุ่นเยาวชนหญิง น้ำหนักไม่เกิน 44 กก. ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน (youth olympic games) ครั้งที่ 2 ณ เมืองหนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และนอกจากนั้นเธอยังเป็นแชมป์เทควันโดโลกปี 2015 รุ่นไม่เกิน 46 กก.
ปัญจกรีฑา ประกอบด้วยการแข่งขัน 5 ประเภท โดยทำการแข่งขันวันเดียวดังนี้ กระโดดไกล, พุ่งแหลน, วิ่ง 200ม., ขว้างจักรและวิ่ง 1, 500 ม. 2. ทศกรีฑา 10 ประเภท จัดทำการแข่งขัน 2 วันติดต่อกัน วันแรก วิ่ง 100ม., กระโดดไกล, ทุ่มน้ำหนัก, กระโดดสูง, วิ่ง 400 ม. วันที่สอง วิ่งข้ามรั้ว 110 ม., ขว้างจักร, กระโดดค้ำ, พุ่งแหลน, วิ่ง 1, 500 ม. หญิง (สัตตกรีฑา) มีการแข่งขัน 5 ประเภท แข่ง 2 วันโดยมีดังนี้ วันแรก วิ่งข้ามรั้ว 100ม., กระโดดสูง, ทุ่มน้ำหนัก, วิ่ง 800ม. ผู้ชนะ คือ ผู้ที่สามารถทำคะแนนสูงสุดในการแข่งขัน ถ้าไม่เข้าแข่งขันหรือไม่ทำการประลองแม้แต่ครั้งเดียวให้ถือว่าเลิกการแข่งขัน แนะนำการดูกรีฑา 1. กรีฑา มีการแข่งขัน 2 ประเภท คือ 1. 1 การแข่งขันประเภทลู่ มีการจับเวลา แข่งขันครั้งเดียวก็ถือผลแพ้ชนะได้ มีการเสมอกัน คือเวลาเท่ากันอาจตัดสินด้วยภาพ หรือจับสลากเพื่อหาผู้เข้าแข่งขันในรอบต่อไป ถ้ามีนักกีฬาสมัครเข้าแข่งขันมากคน ก็ใช้วิธีการคัดเลือกหลายๆ รอบ ในรอบชิงชนะเลิศนั้น เฉพาะอันดับที่ 1 อาจให้แข่งขันกันใหม่ก็ได้ หรือให้เป็นไปตามผลคือเสมอกัน 1. 2 ในการแข่งขันประเภทลาน ไม่มีการจับเวลาในการแข่งขัน แต่จะมีการประลองเท่านั้น ไม่มีการเสมอกัน จะต้องตัดสินแพ้ชนะกันเด็ดขาด 2.
1900 (พ. 2443) เริ่มปรากฏว่ามีการหันมาใช้ไม้ปิงปองติดยางเม็ดแทนหนังสัตว์ ดังนั้น วิธีการเล่นแบบรุก หรือแบบบุกโจมตี (ATTRACK หรือ OFFENSIVE) โดยใช้ท่าหน้ามือ (FOREHAND) และหลังมือ (BACKHAND) เริ่มมีบทบาทมากขึ้น และยังคงนิยมการจับแบบไม้แบบยุโรป ดังนั้น จึงถือว่ายุโรปเป็นศูนย์รวมของกีฬาปิงปองอย่างแท้จริง ต่อมาในปี ค. 1922 (พ. 2465) ได้มีบริษัทค้าเครื่องกีฬา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่า "PINGPONG" ด้วยเหตุนี้ กีฬาปิงปองจึงต้องเปลี่ยนชื่อเป็น เทเบิลเทนนิส (TABLE TENNIS) และในปี ค. 1926 (พ. 2469) ได้มีการประชุมก่อตั้งสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (INTERNATIONAL TABLETENNIS FEDERATION: ITTF) ขึ้นที่กรุงลอนดอน ในเดือนธันวาคม พร้อมกับมีการจัดการแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลก ครั้งที่ 1 ขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นในปี ค. 1950 (พ. 2493) เป็นยุคที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้หันมาสนใจกีฬาเทเบิลเทนนิสมากขึ้น และได้มีการปรับวิธีการเล่นโดยเน้นไปที่การตบลูกแม่นยำ และหนักหน่วง และการใช้จังหวะเต้นของปลายเท้า ต่อมาในปี ค. 1952 (พ. 2495) ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสโลกเป็นครั้งแรก ที่กรุงบอมเบย์ ประเทศอินเดีย และในปี ค.
การประลอง มีเฉพาะการแข่งขันประเภทลานเท่านั้น กำหนดการประลองไว้ดังนี้ 2. 1 ถ้ามีนักกีฬาเข้าแข่งขันมากกว่า 8 คน ก็ให้ประลองคนละ 3 ครั้ง เพื่อคัดเอาไว้ 8 คน ถ้าอันดับที่ 8 ยังเสมอกันอยู่ก็ให้ประลองกันอีกคนละ 3 ครั้ง และได้กำหนดระยะเวลาในการประลองไว้ดังนี้ 2. 2 ประเภทกระโดดสูง กระโดดไกล เขย่งก้าวกระโดด ทุ่มน้ำหนัก ขว้างค้อน และพุ่งแหลน ให้เวลาประลอง 1 นาที 30 วินาที 2. 3 กระโดดค้ำ ให้เวลาประลอง คนละ 2 นาที ถ้ามีนักกีฬาคนเดียว ก็ให้ประลอง 5 นาที 3. การเสมอกัน ถ้ามีการเสมอกันให้ปฏิบัติดังนี้ 3. 1 กระโดดสูง ให้เลื่อนไม้พาดขึ้นขั้นละ 2 ซม. 3. 2 กระโดดค้ำ ให้เลื่อนไม้พาดขึ้นขั้นละ 5 ซม. 3. 3 แผนกที่ตัดสินด้วยระยะทาง ก็ให้ดูสถิติที่ดีที่สุดในอันดับ 2, 3 รองลงไปเรื่อยๆ แต่ถ้ายังเสมอกันอยู่ก็ให้แข่งขันใหม่ 4. การเข้าเส้นชัย นักกีฬาจะต้องใช้ส่วนหนาของลำตัว (หน้าอก) ถึงด้านหน้าของเส้นชัย ในแนวดิ่ง (ยกเว้น หัว คอ แขน ขา มือ เท้า) 5. ช่องวิ่งหรือลู่วิ่ง ช่องกว้าง 1. 22 เมตร 5. 1 การแข่งขันวิ่งระยะทางไม่เกิน 400 เมตร จะต้องวิ่งในลู่ของตนเอง เริ่มวิ่งจากท่านั่งและใช้เครื่องยันเท้า รวมทั้งการวิ่งผลัด 5. 2 การแข่งขันวิ่งที่ไม่ได้กำหนดช่องวิ่งเฉพาะตัวไว้ เส้นเริ่มวิ่งจะต้องเป็นเส้นโค้ง เพื่อให้ทุกคน มีระยะยทางวิ่งไปถึงเส้นชัยเท่ากัน ให้เริ่มวิ่งในท่ายืน ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยยันเท้า 6.