ต้น กระโดน น้ำ
2553 ดอกจิกน้ำ เริ่มบานอีกครั้ง ที่สวน ช่อดอกยาว เกิน2ฟุต สวยมากแต่บานตอนกลางคืน เช้ามาก็ล่วงหมด _______________________________________________________ เมื่อปลายฝน ต้นหนาว ที่ยาวนาน เกิดตำนาน ดอกไม้ มาให้เห็น สวยสีหวาน ม่านมนต์ขลัง หลังยามเย็น ราตรีเป็น เสน่หา ให้มาชม จิกเอยจิกน้ำ เหมือนเจ้าช้ำ ชอกใจ ให้เหลือข่ม หลบตาวัน หลบตาใคร ให้ตรอมตรม เจ็บช้ำคม น้ำคำใคร คนใจดำ Create Date: 17 สิงหาคม 2552 Last Update: 10 กันยายน 2553 10:51:58 น. 0 comments Counter: 37793 Pageviews.
- กระโดนดิน » ไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีรากอวบ
- จิกน้ำ - วิกิพีเดีย
- ต้นกระโดน - WACHIRATHAM60601
กระโดนดิน » ไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีรากอวบ
9 กรัม, แคลเซียม13มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส18มิลลิกรัม, เหล็ก1. 7มิลลิกรัม, วิตามิน เอ3958IU, วิตามินบี หนึ่ง0. 10มิลลิกรัม, วิตามินบีสอง0. 88มิลลิกรัม, ไนอาซิน1.
ชื่อวิทยาศาสตร์: Barringtonia acutangula Gaertn. ชื่อวงศ์: Barringtoniaceae ชื่อสามัญ: INDIAN OAK ชื่ออื่น: กระโดนทุ่ง, กระโดนน้ำ, จิก, ตอง ลักษณะ: จิกน้ำ เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 5-15 เมตร ลำต้นเป็นปุ่มปม ปลายกิ่งลู่ลง มีการแตก กิ่งก้านสาขาเป็นจำนวนมาก ใบ ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่ตอนปลายกิ่ง รูปใบหอกหรือรูปไข่กลับ กว้าง 10-13 ซม. ยาว 20-30 ซม. ปลายจะผายกว้างแล้วแหลม โคนแหลมขอบจักถี่ ดอก ออกเป็นช่อยาวที่ปลายกิ่งสีแดง ห้อยลง ยาว 30-40 ซม. กลีบเลี้ยง 4 กลีบ หลุดร่วงง่าย เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. เกสรตัวผู้สีแดงจำนวนมาก ดอกมีกลิ่นอ่อนๆ ผล กลมยาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2. 5 ซม. ยาว 3-4 ซม.
จิกน้ำ - วิกิพีเดีย
ผักกระโดนน้ำ นอกจากใบและดอกสิใช้กินเป็นผัก คือกินกับป่น ลาบ ก้อยแล้ว ยังมีสรรพคุณคือใบ แก้ท้องร่วง เปลือก มีรสฝาด ใช้ชะล้างบาดแผล สมานแผลเรื้อรัง และใช้เบื่อปลาได้ ราก ใช้เป็นยาระบาย ผล เป็นแก้หวัด เมล็ด เป็นยารสร้อน แก้ลม แน่นหน้าอก ใช้ในการคลอดบุตร ทำให้อาเจียน ระงับความเย็น แก้อาการไอของเด็ก ชื่อวิทยาศาสตร์ Barringtonia acutangla (Linn. ) Gaertn. ชื่อวงศ์: BARRINGTONIACEAE กระโดนน้ำ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-17 เมตร ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็ว ทรงพุ่มแผ่กว้าง เปลือกสีน้ำตาลเข้มน้ำตาลแดงหนาและหยาบ ปลายกิ่งมักจะลู่ลง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ เห็นเป็นกลุ่มอยู่ตอนใกล้ปลายกิ่ง ใบรูปรี รูปหอก กลีบรูปไข่กว้างประมาณ 2. 5-8. 5 ซม. ยาวประมาณ 5-16 ซม. ปลายใบมนทู่ เว้าเล็กน้อยหรือเป็นกิ่งเล็กๆ ขอบใบหยิก โคนใบแหลม ดอกเป็นดอกช่อ ออกยาวห้อยย้อยลงที่ปลายกิ่ง สีแดงสดหรือแดงเรื่อๆ ช่อดอกอาจยาวได้ถึง 40 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 4 กลีบ สีชมพู เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก ส่วนก้านเกสรยาว สีแดงสดเห็นเด่นชัดเรียงเป็นชั้นๆ 3 ชั้น โดยมีโคนเชื่อมติดกันและเชื่อมติดกับกลีบดอก เกสรตัวผู้ร่วงง่าย ผลเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีสันเหลี่ยม เมล็ดเป็นรูปไข่ผิวเป็นร่อง 1 ผล มี 1 เมล็ด พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าหญ้าในที่ลุ่มพบมากตามริมฝั่งแม่น้ำลำคลองหนองบึง หรือที่ลุ่มน้ำท่วม
- ต้นกระโดนน้ํา
- ต้นกระโดน - WACHIRATHAM60601
- Kia sedona 2019 ราคา
- จิกน้ำ - บ้านและสวน
- กระโดน - Kaset Today
ต้นกระโดน - WACHIRATHAM60601
ศ. 2549 ↑ อรทัย เนียมสุวรรณ นฤมล เล้งนนท์ กรกนก ยิ่งเจริญ พัชรินทร์ สิงห์ดำ. 2555. พฤกษศาสตร์พื้นบ้านของพืชกินได้จากป่าชายเลนและป่าชายหาดบริเวณเขาสทิงพระ จังหวัดสงขลา [ ลิงก์เสีย]. วารสารวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 40 (3): 981 - 991 ↑ "จิกน้ำ" ยอดอ่อนแดงดอกเป็นระย้า จาก ไทยรัฐ
กระโดนทุ่ง/กระโดนนํ้า/กระโดนสร้อย/จิกนา/จิกมุจรินทร์/จิกอินเดีย/ตอง/ปุยสาย/ลำไพ่/Freshwater Mangrove/Indian Oak/Itchy Tree ชื่อวิทยาศาสตร์: Barringtonia acutangula (L. ) Gaertn. วงศ์: Lecythidaceae ประเภท: ไม้ต้น ผลัดใบ ความสูง: 5 – 15 เมตร ลำต้น: ลำต้นเป็นปุ่มปม ปลายกิ่งลู่ลง ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด รูปใบหอกหรือรูปไข่กลับ ปลายและโคนใบแหลม ขอบจักถี่ ใบอ่อนสีน้ำตาลแดงเข้ม ดอก: เป็นช่อยาวออกที่ปลายกิ่งห้อยลงเป็นระย้า กลีบเลี้ยง 4 กลีบติดทนจนเป็นผล กลีบดอกสั้น ปลายแยกเป็น 4 กลีบ หลุดร่วงง่าย สีชมพูหรือสีแดง เกสรเพศผู้เป็นเส้นฝอยสีชมพูหรือสีแดงจำนวนมาก ออกดอกเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ผล: ผลกลมยาว เส้นผ่านศูนย์กลาง 2. 5 เซนติเมตร ยาว 3 – 4 เซนติเมตร มีเมล็ดอยู่ภายใน ดิน: ทุกประเภท น้ำ: มาก ทนน้ำท่วม แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด และตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: แข็งแรง เลี้ยงง่าย โตเร็ว ระยะปลูกที่เหมาะสม 3 – 6 เมตร เนื้อไม้ใช้ทำไม้อัด เฟอร์นิเจอร์