โดย: รายทาง ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน
การกำหนดค่าปริมาณไธอะมินอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวัน (Dietary Reference Intake, DRI) ของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เมื่อปี ค. ศ. 2000 ได้กำหนดค่าประมาณของความต้องการไธอะมินที่ควรได้รับประจำวัน (Estimated Average Requirement, EAR) ไว้ที่ 1. 0 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ชาย และวิตามินบี 1 ปริมาณ 0. 9 มิลลิกรัมสำหรับเพศหญิง ทั้งนี้สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร ควรเพิ่มปริมาณการรับวิตามินบี 1 ให้มากกว่าปกติอีก 0. 3 มิลลิกรัม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของสภาวะร่างกายในขณะนั้น และสำหรับเด็กทารกวัย 6-8 เดือน ควรได้รับวิตามินบี 1 จำนวน 0. 3 มิลลิกรัม ส่วนเด็กแรกเกิดจนถึงวัย 5 เดือน ควรได้รับวิตามินบี 1 จากน้ำนมแม่ในอัตราส่วน 0. 2 มิลลิกรัม ซึ่งก็หมายความว่าคุณแม่ต้องมีวิตามินบี 1 ในร่างกายที่เพียงพอสำหรับลูกน้อยด้วยนั่นเอง ขอย้ำอีกครั้งว่าภาวะการขาดวิตามินบี 1 เราสามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 สูง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 และพยายามรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพราะการขาดสารอาหารก็เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะขาดวิตามินบี 1 ได้ และอาจส่งผลกระทบที่อันตรายต่อ สุขภาพ ได้เลยล่ะ *หมายเหตุ อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 16 มกราคม 2559 ขอบคุณข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล FIT DAY เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มีรอยแตกที่มุมปาก สาเหตุ: รอยแตกที่มุมปาก เป็นสัญญาณว่าร่างกาย ขาดวิตามินบี 3 บี 2 และบี 12 ซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและสังกะสี สิ่งที่ต้องทำ: ลองกินสัตว์ปีก ปลา (ปลาแซลมอน) ไข่ และถั่วให้มากขึ้น เราขอแนะนำให้รวมอาหารเหล่านี้กับผัก เนื่องจาก วิตามินซีช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ และช่วยเพิ่มการเผาผลาญของธาตุเหล็กด้วย. สิ่งสำคัญ!! คือ ต้องจำไว้ว่าสัญญาณทั้งหมดนี้หมายความว่าคุณขาดวิตามินที่คุณจะได้รับ เพียงแค่เปลี่ยนอาหาร อย่างไรก็ตามสัญญาณเหล่านี้อาจหมายความว่า คุณมีปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินก็ได้. ตัวอย่างเช่น สิวอาจเกิดจากอาการแพ้ และอาการชาที่แขนขาอาจส่งสัญญาณปัญหาบางอย่างกับคอของคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณควรปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อความแน่ใจ. ข้อมูลและรูปภาพจาก: Bright Side
การขาดวิตามินบี 1 สังเกตได้จากอาการเหน็บชา ทว่านอกจากนั้นแล้วยังอาจมีสัญญาณอันตรายต่อสุขภาพที่ควรต้องใส่ใจมากขึ้นก่อนจะสายเกินไปด้วย วิตามินบี 1 มีบทบาทความสำคัญที่มากกว่าหลาย ๆ คนเข้าใจ เพราะอย่างที่รู้กันว่าหากขาดวิตามินบี 1 ขึ้นมา โรค เหน็บชาจะเตือนให้เราต้องเติมวิตามินบี 1 ให้ร่างกายมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่อยากให้รู้เพิ่มขึ้นอีกนิดก็คือ สัญญาณของการขาดวิตามินบี 1 ไม่ได้มีแค่อาการเหน็บชาเท่านั้น แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ที่ต้องใส่ใจให้ดีด้วย ไม่อย่างนั้นภาวะขาดวิตามินบี 1 อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลย วิตามินบี 1 ช่วยอะไร? บทบาทหน้าที่ของวิตามินบี 1 หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าไธอะมิน (Thiamine) คือ ช่วยเสริมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานร่างกาย ให้มีแรงทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ รวมทั้งยังมีส่วนสำคัญต่อระบบประสาท โดยเฉพาะในด้านนำกระแสความรู้สึกของเส้นประสาททุกส่วนในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของหัวใจ และทางเดินทางอาหาร ศ. นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลว่า ในคนปกติจะมีวิตามินบี 1 สะสมอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะในกล้ามเนื้อ และมีอยู่บ้างในสมอง หัวใจ ตับ ไต แต่หากเกิดภาวะขาดวิตามินเมื่อใด ร่างกายจะดึงเอาวิตามินที่สะสมไว้ในร่างกายออกมาใช้ ซึ่งจะหมดไปภายใน 1 เดือน และเริ่มมีอาการต่าง ๆ ปรากฏให้เห็น หากร่างกายเกิดภาวะขาดวิตามินบี 1 อาการเบื้องต้นเลยก็คือจะทำให้เป็นโรคเหน็บชา ซึ่งภาวะขาดวิตามินบี 1 สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และยิ่งเกิดกับเด็กทารกยิ่งต้องระวัง เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตค่อนข้างสูง ขาดวิตามินบี 1 อาการอะไรบอกได้บ้าง?
ร่างกายขาดวิตามิน ส่งผลเหน็บชาปลายมือและเท้า: จับตาข่าวเด่น (2 ก. ย. 63) - YouTube
รูปภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของอาหาร เสริม ลด แขน ขา ร่างกายขาดวิตามิน ส่งผลเหน็บชาปลายมือและเท้า: จับตาข่าวเด่น (2 ก. 63) นอกจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับบทความนี้ ร่างกายขาดวิตามิน ส่งผลเหน็บชาปลายมือและเท้า: จับตาข่าวเด่น (2 ก. 63) คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลใหม่ ข้อเสนอแนะบางประการเกี่ยวกับอาหาร เสริม ลด แขน ขา #รางกายขาดวตามน #สงผลเหนบชาปลายมอและเทา #จบตาขาวเดน #กย. ไทยพีบีเอส, thaipbs, ย้อนหลัง, ย้อนหลังล่าสุด, ย้อนหลังไทยพีบีเอส, ช่องไทยพีบีเอส, ข่าว, thai pbs, อาการชา, ชาปลายมือและเท้า, ขาดวิตามิน. ร่างกายขาดวิตามิน ส่งผลเหน็บชาปลายมือและเท้า: จับตาข่าวเด่น (2 ก. 63). อาหาร เสริม ลด แขน ขา. หวังว่าคุณค่าที่เรามอบให้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการอ่านอาหาร เสริม ลด แขน ขาข่าวของเรา Amber Heard ฉัน Amber Heard กําลังจัดการ Juniper's Gin Joint อยู่ในขณะนี้ หัวข้อในหน้าของเรารวมถึงความคิดเห็นของโรงแรมไทยรีสอร์ทอาหารและเครื่องดื่มและประสบการณ์การเดินทางและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เว็บไซต์ของเรา คุณจะพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อข้างต้น
แม้ว่าจะมีวิธีแก้ไขมากมายสำหรับอาการขาดวิตามิน แต่ผู้คนจากประเทศต่างๆยังคงประสบกับการขาดวิตามิน แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ดีที่จะรับวิตามินจำนวนมากโดยไม่ทราบผลกระทบ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ร่างกายของเรานั้นต้องการสารอาหารทุกอย่างในขนาดที่สมดุล ในบทความนี้เราจะบอกคุณเกี่ยวกับวิธีการฟื้นฟูการขาดวิตามินโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวคุณเอง. 1. ผมร่วง สาเหตุ: การขาด B7 (ไบโอติน) จากการกินไข่ดิบมากเกินไป ไข่ขาวดิบมีอะวิดินซึ่งขัดขวางความสามารถของร่างกายในการย่อยไบโอติน สิ่งที่ต้องทำ: เพื่อเพิ่มการบริโภค B7 ให้กินอัลมอนด์ ถั่วเหลือง มันฝรั่ง (บดหรืออบ) และกล้วยให้มากขึ้น 2. ตะคริว สาเหตุ: การเป็นตะคริวบ่อยๆ หมายความว่า คุณขาดแคลเซียม แมกนีเซียมและโพแทสเซียม สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณเล่นกีฬาหลายประเภท เพราะเมื่อคุณเหงื่อออกแร่ธาตุจำนวนมากจะออกจากร่างกายของคุณ สิ่งที่ต้องทำ: กินถั่วให้มากขึ้น (เช่นอัลมอนด์และเฮเซลนัท) ฟักทองกล้วยและแอปเปิ้ล 3. ผื่นบนใบหน้า สาเหตุ: การขาดวิตามินบี 7 (ไบโอติน) ร่างกายของเราเก็บวิตามินที่ละลายในไขมันไว้จำนวนมาก (A, E, K, D) แต่วิตามินกลุ่ม B จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องทำ: นอกจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุณสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาแล้ว คุณสามารถเพิ่มปริมาณไบโอตินได้เพียงแค่เปลี่ยนอาหาร กินเห็ด มันฝรั่ง ชีส ไข่ต้ม ผักโขม และกะหล่ำดอก.
เอ!